ประวัติวัดอ้อมน้อย


                  ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2410 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 โดยอุบาสิกาฉิม เกิดเจริญ เป็นผู้มีศรัทธาแรงกล้ายกที่ดินให้16ไร่3งาน และอุบาสกอ่วม เกิดเจริญ เป็นผู้สร้างวัดให้โดยปลูกกุฏิขึ้น2ห้อง หอสวดมนต์1หลัง3ห้องหลังคามุงด้วยจาก ฝากรุกกระแชงอ่อนได้อาราธนาพระภิกษุผันมาเป็นเจ้าอาวาส ต่อมาได้สร้างอุโบสถขึ้น1หลัง มุงด้วยจาก ฝากรุกด้วยจากเช่นกัน พระอธิการผันได้พัฒนาวัดให้เจริญขึ้นมาเป็นลำดับ จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระอธิการผันได้ข้อพระราชทานวิสุงคามสีมา ซึ่งพระองค์ท่านได้ทรงพระเมตตาโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา ให้แก่วัดอ้อมน้อย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2425 ได้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตเสร็จสมบูรณ์แบบทุกประการซึ่งอุ บาสกอ่วม เกิดเจริญ มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าได้บรรพชาอุปสมบทในระยะนั้นด้วย ต่อมาพระอธิการผันได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อย พระภิกษุอ่วมได้ดูแลวัดอ้อมน้อยแทนพระอธิการผันสืบมาถึง 9 ปีแต่ไม่รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อย พระภิกษุอ่วมจึงได้อาราธนาพระภิกษุฉายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยรูปที่ 2 จากนั้นเป็นต้นมาพระภิกษฉายเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยก็ได้มีการลาออกจากตำแหน่ง เจ้าอาวาส และเข้ารับตำแหน่งอีกหลายรูปด้วยกัน ซึ่งแต่ละรูปก็ได้พัฒนาวัดอ้อมน้อยให้เจริญขึ้นมาตามลำดับตามกาลเวลาตาม สภาวะแวดล้อมของสังคมได้มีการเปลี่ยนแปลงได้สร้างหลังคาอุโบสถซึ่งแต่เดิม มุงด้วยจากมาเป็นหลังคากระเบื้องกำแพงอุโบสถก่อด้วยอิฐถือปูนและได้ใช้ อุโบสถหลังนี้ประกอบพิธีทางศาสนาตลอดมา แต่การพัฒนาวัดก็ยังไม่สามารถทำให้วัดตั้งอยู่ในสถานะมั่นคงได้เพราะยังขาด ถาวรวัตถุที่จำเป็นอีกมากมายหลายอย่าง ประกอบกับสภาพสังคมทางบ้านเมืองก็ยังไม่เจริญทำให้การพัฒนาวัดเป็นไปได้ช้า จนกระทั่งถึงเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยรูปที่ 9 คือ พระอาจารย์เล้ง จนฺทสุวณฺโณ ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อย ท่านได้สร้างสาธารณูปการให้เกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น สร้างถนนก่ออิฐถือปูนเปลี่ยนแปลงกุฏิหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมให้ดีขึ้น ทั้งยังสร้างเพิ่มขึ้นเป็น 8 หลัง ส้างโรงเรียนประชาบาลขึ้น 1 หลัง สร้างสุสานเก็บศพ สร้างศาลาการเปรียญด้วยไม้สักยาว 1 วา กว้าง 6 วา เป็นศาลาเอนกประสงค์ และอื่นๆ อีกมากมาย

ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยถึง 25 ปี ผลงานของพระอธิการเล้ง จนฺทสุวณฺโณ เป็นที่ประจักษ์จักแก่สาธุชนทั่วไปทางคณะสงฆ์จึงได้อาราธนาย้ายท่านไปดำรง ตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดนางสาว ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในเขตเดียวกันเพื่อพัฒนาวัดนางสาวบ้าง ถัดจากนั้นก็ได้พระอาจารย์ป่วนขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อย รูปที่ 10 ดำรงตำแหน่งอยู่ 5 ปี พระอาจารย์ป่วนจึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยไปทางคณะสงฆ์จึง ได้อาราธนาพระมหาสว่าง ญาณทีโป ป. ธ. 5 น.ธ. เอก จากวัดนางสาวมาเป็นเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยเมื่อ พ.ศ. 2493 พระมหาสว่างได้ทำการบูรณะซ่อมแซมกุฏิสงฆ์ที่ทรุดโทรมให้ดีขึ้นสร้างกุฏิอีก 2 หลัง สร้างหอฉัน สร้างหอระฆังมีช่อฟ้าใบระกา ซ่อมแซมอุโบสถด้วยการฉาบปูนทั้งข้างนอกข้างใน สร้างศาลาบำเพ็ญกุศล ขุดสระน้ำให้พระสงฆ์และประชาชนใช้ประโยชน์นอกจากนี้ยังมีการซ่อมแซมโรงเรียน ประชาบาลให้มั่นคงขึ้น สามารถนักเรียนได้มากขึ้นอีกและนางสาวอาบ เกิดเจริญมีศรัทธาอย่างแรงกล้าในพระพุทธศาสนาได้ถวายที่ดินเป็นธรณีสงฆ์ของ วัดอ้อมน้อย จำนวน 21 ไร่ 3 งาน ส้างถนนดินลูกรังจากถนนเพชรเกษมเข้าสู่วัด ฯลฯผลงานของเจ้าอาวาสรูปที่ 11 เป็นที่ปรากฏแก่สาธารณชนคนทั่วไป จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูวิบูลย์สุตาธิการ ชั้นพิเศษ ได้รับพัดยศ จปร.ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติคุณแก่วัดอ้อมน้อยที่มีพระครูสัญญาบัตรรูปแรกของ วัดอ้อมน้อย นับตั้งแต่สร้างวัดมา พระครูวิบูลย์สุตาธิการดำรงตำแหน่งวัดอ้อมน้อยอยู่ถึง 9 ปีจึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยไป ในช่วงนี้ พระประยงค์ สุวณฺโณได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยอยู่ประมาณ 1 เดือนก็ได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยไป ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้ง

พระอาบ ปุญญฺโชโต และ (สมเด็จพระสังฆราชอยู่ ญาณโณทัย วัดสระเกศราชวรวิหาร ได้ประทานนามให้ว่า “ณรงค์ฤทธิ์ ฉิมมณี” ) น.ธ.เอกขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อยรูปที่ 12 เมื่อ พ.ศ.2502

เมื่อพระอธิการอาบ ปุญญฺโชโตได้เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อย ท่านได้เริ่มพัฒนาวัดอย่างจริงจัง ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจกับวัดอ้อมน้อยอย่างเต็มความสามารถ ได้สร้างถาวรวัตถุที่สำคัญต่างๆเช่น สรร้างฌาปนสถานพร้อมศาลาบำเพ็ญกุศล สร้างถังน้ำบาดาลให้พระสงฆ์และประชาชนใกล้เคียง ได้ใช้ประโยชน์ สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม สร้างหอพระไตรปิฎก เป็นผู้การอุปถัมภ์โรงเรียนประถมวัดอ้อมน้อย และโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ ทำให้วัดอ้อมน้อยวิวัฒนาการไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นกอปร กับประชาชนชาวตำบลอ้อมน้อยและใกล้เคียงมีความศรัทธาเลื่อมใสให้การสนับสนุน เจ้าอาวาสรูปนี้ด้วยดีตลอดมา จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูโสภณธรรมสาครและต่อมาได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบนชั้นพิเศษ ผลงานความสามารถตลอดจนคุณงามความดีของพระครูโสภณธรรมสาครได้ปรากฏแก่ประชาชน โดยทั่วไป ท่านจึงได้รับการพิจารณาจากคณะสงฆ์ให้เข้ารับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร ประเภทส่งเสริมและสงเคราะห์ประชาชนโดยใช้หลักธรรม

ทางพระพุทธศาสนา ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชาเมื่อวันที่ี 26 เมษายนพ.ศ. 2533 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับเป็นเกียรติประวัติแก่วัดอ้อมน้อยอย่างล้นพ้นในช่วงระยะเวลาที่ท่านพระ ครูโสภนธรรมสาครมารับภาระปกครองดูแลวัดอ้อมน้อยนี้

ท่านได้พัฒนาวัดอ้อมน้อยมีความเจริญและทันสมัยเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีพระภิกษุสงฆ์สามเณร เข้ามาบรรพชาอุปสมบทและจำพรรษาเป็นจำนวนมาก ท่านได้พิจารณาแล้วเห็นว่าอุโบสถ์หลังเดิมมีขนาดเล็กคับแคบ ไม่สะดวกในการทำสังฆกรรมของพระสงฆ์ ทั้งยังมีสภาพทรุดโทรมมากมาย ไม่สามารถทำการบูรณะซ่อมแซมได้อีกแล้ว จึงได้ปรึกษาหารือกับไวยาวัจกร คณะกรรมการของวัด ศิษยานุศิษย์และประชาชนร่วมกันสร้างอุโบสถ์หลังใหม่ขึ้น มีขนาดกว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร

โดยในเบื้องต้นได้รับการอุปถัทถ์จาก นางเยี่ยม ประชาศรี บริจาคเงินจำนวน 500,000 บาท และนางใย ซิ้มเจริญ พร้อมญาติพี่น้อง บริจาคเงินจำนวน 300,000 บาท เป็นกองทุนในการวาง

ศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2525 โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดจักรวรรดิราชาวาส เป็นประธานในพิธี และเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2525 ซึ่งต่อมาได้รับบริจาคเงิน จากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ผู้มีจิตศรัทธาโดยทั่วไป จำนวนประมาณ 12,200,000 บาท

อุโบสถหลังใหม่นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงยกช่อฟ้าและเททองหล่อรูปจำลองพระประธานอุโบสถ เมื่อวันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2536 ยังความปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นล้นพ้นมาสู่พสกนิกร ชาวตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

ลำดับเจ้าอาวาสวัดอ้อมน้อย
1.พระอธิการผัน
2.พระอธิการฉาย
3.พระอธิการเนตร
4.พระอธิการจู
5.พระอธิการแดง
6.พระอธิการรอด
7.พระครูสังฆรักษ์ขิต (ปลั่ง)
8.พระอธิการหรั่ง
9.พระอธิการเล้ง จนฺทสุวณฺโณ
10.พระอธิการป่วน
11.พระครูวิบูลย์สุตาธิการ (สว่าง เสือบำรุง)
12.พระครูโสภณธรรมสาคร (ณรงค์ฤทธิ์ ฉิมมณี) 35ปี (มรณภาพ)
13.พระครูสาครธรรมานุวัตร (ชลิต อมโร) 4ปี(ลาสิกขา)
14.พระครูสาครธรรมาภรณ์ (ชุบ อธิปญฺโญ) ชัยสิทธิ์ 9 ปี (มรณภาพ)
15พระครูสาครเขมคุณ (มนูญ เขมวํโส) รามัญอุดม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน พ.ศ. 2550-ปัจจุบัน

ประวัติหลวงพ่อเพ็ง       
            หลวงพ่อเพ็ง พระพุทธรูปประธานประจำอุโบสถวัดอ้อมน้อย ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 69 นิ้ว ประวัติความเป็นมาในการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่นอน ชัดเจนว่าสร้างในปีพ.ศ. ใด จากคำบอกเล่าฃองผู้เฒ่าผู้แก่ในตำบลอ้อมน้อยกล่าวว่า เกิดมาก็เห็นหลวงพ่อเพ็งเป็นพระประธานในอุโบสถ์วัดอ้อมน้อยมาก่อนแล้ว จึงสันนิษฐานได้ว่าคงสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างวัดและอุโบสถ์หลังเก่า และสังเกตุได้จากลวดลายของจีวร เป็นจีวรลายดอกพิกุล ซึ่งเป็นที่นิยมของคนในสมัยโบราณ พร้อมกันนี้ก็เรียกขานนามของพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อเพ็ง” หลวงพ่อเพ็งเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวตำบลอ้อมน้อย และตำบลใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือและศรัทธาเป็นอย่างยิ่งทุกคนมักได้ ประจักษ์ ถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของ ท่านอยู่เสมอ เช่น คนที่เจ็บป่วยมาเป็นเวลานานรักษาหมอที่ไหนไม่หาย ก็ไปกราบหลวงพ่อเพ็งบนต่อหน้าท่าน ชอให้โรคหายแล้วอธิฐานขอน้ำมนต์ ดอกบัว และผงก้านธูปที่อยู่ในอุโบสถ์มาต้มดื่มกิน โรคที่เป็นมาเรื้อรังก็หาย บางคนประสบอุบัติเหตุสลบไม่ได้สติมีอาการหนักมาก จนหมอไม่รับรองว่าจะรอดชีวิต หรือถ้าหายก็จะต้องกลายเป็นคนพิการแน่นอน แต่ญาติพี่น้องของคนเจ็บได้มาอธิฐานบนต่อหลวงพ่อเพ็งและขอน้ำมนต์ไปหยอดใส่ ปากให้คนเจ็บกินทุกวันและเอาน้ำมันของหลวงพ่อไปทาให้ทั่ว ปรากฏว่าคนเจ็บนั้นฟื้นและหายได้เป็นปกติโดยไม่พิการหรือสมองเสื่อมเลย สร้างความประหลาดใจให้กับแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลอย่างยิ่ง คนในท้องถิ่นอื่นได้ยินได้ฟังกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเพ็ง เกิดความศรัทธาเดินทางมากราบไหว้บนบานขอพรให้ตนพ้นจากความทุกข์ พ้นจากความเจ็บป่วยก็ได้สมดังปรารถนา มีผู้มาบูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อเพ็ง ไปคล้องคอ และพกติดตัว บางคนได้ประสบอุบัติเหตุ เช่น ถูกรถชนพลัดตกจากที่สูง ถูกทำร้ายร่างกายฯลฯ แต่คลาดแคล้วปลอดภัยมาได้โดยไม่เป็นอะไรเลย ก็ยิ่งทำให้มีผู้ศรัทธาเลื่อมใสในองค์หลวงพ่อเพ็งมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อเพ็งจึงมีศรัทธาประชาชนเป็นจำนวนมาก เดินทางมากราบไหว้และปิดทองกันอย่างมากมายเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ วัตถุมงคลของหลวงพ่อเพ็งก็เป็นที่นิยมของ ประชาชนทั้งหลายมาเช่าบูชากันในหมู่ของนักสะสมพระเครื่อง และผู้ที่ชอบแสวงหาไว้เพื่อขอบารมีท่านให้ช่วยคุ้มครอง หลวงพ่อเพ็งนับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่ตำบลอ้อมน้อยอย่างแท้ จริง ด้วยเมตตาบารมีของหลวงพ่อที่ช่วยปกป้องคุ้มครองภัยพาล สร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้ลูกหลานชาวตำบลอ้อมน้อย และผู้ที่นับถือในองค์หลวงพ่อเพ็งเสมอมา ผู้ใดมีความทุกข์ความเดือดร้อนอันใด มาขอพรขอบารมีให้ท่านช่วย ท่านก็มักจะช่วยให้สมปรารถนาดับทุกข์ร้อนที่มีอยู่ ยังความร่มเย็นทั้งกายใจ แก่ผู้ที่มากราบไหว้ได้อย่างอัศจรรย์ยิ่ง ข้อมูลจำเพาะ สิ่งของที่ผู้มีความทุกข์มาขอพรต่อหน้าท่านแล้วสมปรารถนานำมาบูชาพระคุณของ หลวงพ่อ (แก้บน) จำนวนตามศรัทธา เช่น พวงมาลัยดอกไม้สด ประทัด ละครรำ บนบวชถวาย และอื่นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น